4 Cytoprotectives 1. 4. 1 Misoprostol ยับยั้งการหลั่งกรดและเพิ่มการสร้างเยื่อบุกระเพาะอาหาร ห้ามใช้หญิงตั้งครรภ์ อาการข้างเคียงที่สำคัญ คือ คลื่นไส้อาเจียน, ปวดท้อง, ท้องเสีย 1. 2 Sucrafate ช่วยเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหาร จึงป้องกันการทำลายจากกรดในกระเพาะอาหาร โดยยานี้จะดูดซึมดีในสภาวะเป็นกรด ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกับยากลุ่ม H2 Blocker หรือ Antacid อาการข้างเคียงที่สำคัญ คือ ท้องผูก คลื่นไส้อาเจียน 2. ยาที่ใช้กำจัดเชื้อ สูตรยาหลักที่ใช้ในการกำจัดเชื้อ: PPIs + Claritromycin (500mg วันละ 2 ครั้ง) + Amoxycillin(1 g วันละ 2 ครั้ง) สูตรที่ใช้กรณีที่ใช้สูตรหลักไม่ได้: PPIs + Bismuth (525mg วันละ 4 ครั้ง) + Metronidazole (250-500 g วันละ 4 ครั้ง) + Tetramycin(500 mg วันละ 4 ครั้ง) หมายเหตุ: 1. ระยะเวลาการรักษาควรให้ยานาน 14 วัน 2. หากไม่ใช้ยา Tetracycline สามารถใช้ยา Amoxycillin 500 mg วันละ 2 ครั้ง หรือ Claritromycin 250-500mg วันละ 4 ครั้ง แทนได้ 3. สมุนไพรที่ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ได้แก่ เปล้าน้อย, ขมิ้นชัน, กล้วยน้ำว้า ข้อมูลจากฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์
การแบ่งประเภทของโรคแผลในทางเดินอาหาร แบ่งตามตำแหน่งที่เกิด จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ 1. แผลในลำไส้ (Duodenal ulcer: DU) มักพบในผู้ป่วยอายุ 25-55 ปี พบมากในผู้ป่วยอายุ 40 ปี อาการแสดง: ปวดใต้ลิ้นปี่ มักมีอาการตอนกลางคืน (เที่ยงคืน-ตี2) เมื่อรับประทานอาหารมักจะทำให้อาการปวดบรรเทาลง 2. แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer: GU) จะไม่พบในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 40 ปี แต่จะพบมากในช่วงอายุ 55-65 ปี อาการแสดง: ปวดแบบระบุตำแหน่งได้ยาก มักไม่มีอาการตอนกลางคืน การรับประทานอาหารจะทำให้มีอาการปวดได้ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด แบ่งตามสาเหตุ จะแบ่งได้ 3 แบบ คือ 1. เกิดจากเชื้อ PUD เป็นเรื้อรัง มักเกิดแผลในลำไส้มากกว่ากระเพาะอาหาร เลือดออกในทางเดินอาหารแต่ไม่รุนแรง 2. การรับประทานยาที่รายคายเคืองต่อทางเดินอาหาร NSAID-induced PUD มักเกิดแผลในกระเพาะอาหารมากกว่าในลำไส้ แผลลึก 3.
NSAID ย่อมาจากคําว่า Nonsteroidal anti-inflammatory drug หมายถึง ยาต้านการอักเสบชนิดที่ ไม่ใช่สเตียรอยด์เป็นยากลุ่มที่ใช้เป็นยาแก้ปวดได้ดีโดยเฉพาะ อาการปวดจากการอักเสบ ยาที่จัด เป็นแม่แบบ คือ แอสไพริน (Aspirin) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและใช้กันมานาน 2. Metronidazole เป็นยาใช้รักษา โรคติดเชื้อ ทริโคโมเนส ทั้งในช่องคลอดและผู้ชายที่มีอาการ มีเชื้อ ทริโคโมเนส Trichomoniasis โดยที่ไม่มีอาการ เช่นปากมดลูกอักเสบ ใช้ป้องกันสำหรับผู้ที่สัมผัสโรคพร้อมกับผู้ป่วย เชื้อบิด มีตัว ฝีในตับ เชื้อแบคทีเรียชนิดไม่พึ่งออกซิเจน และรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กเนื่องจากเชื้อ (ใช้ร่วมกับยาอื่น) 3.
ถ้าเป็นแผลเพ็ปติก หากรักษาอย่างถูกต้อง มักจะหายขาด แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่าง ถูกต้อง อาจเป็นเรื้อรังและเกิดภาวะแทรกซ้อน เป็นอันตรายได้ ๒. ถ้าเป็นโรคกระเพาะชนิดไม่มีแผล มัก จะมีอาการเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ต้องอาศัยการใช้ยาช่วยให้บรรเทา ยกเว้นว่าสืบทราบเหตุกำเริบได้แน่ชัด และหลีก เลี่ยงได้ ก็อาจจะทุเลาไปได้ แต่ ถ้ามีเหตุกำเริบอีก อาการก็จะกลับมาอีก การป้องกัน ๑. หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่ จำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มยาต้านอักเสบ ที่ไม่ใช่สตีรอยด์ที่ใช้แก้ปวดข้อ ปวด เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ และยาอื่นๆ ที่เป็นเหตุกระตุ้นให้โรคกำเริบ ๒. กินอาหารสุก อย่ากินอาหารดิบๆ สุกๆ หรือมีแมลงวันตอม เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเอชไพโรไล ๓. ออกกำลังกายเป็นประจำ ๔. กินอาหารให้ตรงเวลา ความชุก โรคกระเพาะจัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยในประชากรทั่วไป พบได้ในคนทุกวัย โดยเฉพาะในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ คนที่นิยมกินยาแก้ปวดข้อปวดเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อเป็นประจำ คน ที่ดื่มสุราจัด ดื่มกาแฟจัด คนที่มีความเครียดบ่อยๆ
โรคกระเพาะ เป็นคำกว้าง ๆ ที่หมายรวมการมีพยาธิสภาพที่กระเพาะอาหาร โดยโรคกระเพาะสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มโรคกระเพาะอาหารชนิดไม่มีแผล เป็นกลุ่มที่พบได้บ่อยมากที่สุด โดยมีสาเหตุมาจากการทำงานที่ผิดปกติ เช่น การบีบตัวของกระเพาะกับลำไส้ที่ทำงานไม่ประสานกัน หรืออาจเกิดจากสภาพกรดในกระเพาะที่มีมากเกินไป แต่ไม่ทำให้เกิดแผล ต่อมาคือ กลุ่มความผิดปกติเกิดแผลในกระเพาะอาหาร หรือเรียกว่าโรคแผลในกระเพาะอาหาร สุดท้ายคือ กลุ่มความผิดปกติจากโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร พบได้น้อยมาก ประมาณ 2% ของผู้ป่วยที่มาด้วยอาการปวดท้อง ซึ่งสงสัยว่าเป็นโรคกระเพาะอาหาร เมื่อไรควรไปพบแพทย์?
Sitemap | image-pick.com, 2024